บริษัท มาร์เก็ตอินโฟ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ได้ขึ้นทะเบียนพาณิชย์อิเลกทรอนิกส์ กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยได้จดทะเบียนพาณิชย์ตามพระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ.2499 เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2546 ทะเบียนเลขที่ 7100803000600 ชนิดแห่งพาณิชยกิจ – ขายข้อมูล งานวิจัยทางธุรกิจ ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

เราเป็นผู้ให้บริการข้อมูลด้านการตลาด (Marketing) จัดทำโดยผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีประสบการณ์ด้านข้อมูลการตลาดมากว่า 10 ปี ข้อมูลแต่ละชุดมีตั้งแต่ 5 หน้าขึ้นไป มีจำนวนเรื่องให้เลือกกว่า 500 เรื่อง 

บริษัท มาร์เก็ตอินโฟ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด

รายชื่อข้อมูลอัพเดทใหม่
No. ข้อมูลการตลาด รายละเอียด จำนวนหน้า Updated ราคา
1. มูจิ MUJI รายละเอียด 14 28 พฤศจิกายน 2567 250
2. ฟิตเนส รายละเอียด 34 09 ตุลาคม 2567 450
3. น้ำดื่มตราสิงห์ รายละเอียด 13 07 กันยายน 2567 350
4. แลคตาซอย รายละเอียด 12 30 สิงหาคม 2567 450
5. ยีนส์ รายละเอียด 18 24 สิงหาคม 2567 300
6. สินค้าและอุปกรณ์กีฬาไนกี้ รายละเอียด 7 19 สิงหาคม 2567 150
7. น้ำดื่มคริสตัล รายละเอียด 14 08 สิงหาคม 2567 250
8. ธุรกิจฟู้ดทรัค รายละเอียด 16 07 สิงหาคม 2567 300
9. บีเอ็มดับเบิลยู รายละเอียด 8 27 กรกฎาคม 2567 350
10. สถานีบริการน้ำมัน (ตลาดรวม) รายละเอียด 18 24 กรกฎาคม 2567 300
11. ปลากระป๋อง (ปลาซาร์ดีน-ปลาทูน่า) รายละเอียด 22 17 กรกฎาคม 2567 450
12. นกแอร์ รายละเอียด 14 08 กรกฎาคม 2567 250
13. โอชายะ Ochaya รายละเอียด 6 05 กรกฎาคม 2567 150
14. น้ำดำหรือโคล่า รายละเอียด 11 03 กรกฎาคม 2567 400
15. ไมโล รายละเอียด 10 29 มิถุนายน 2567 350

การวิเคราะห์สภาพตลาด
( Market Analysis )

กลยุทธ์ระดับองค์กร
ของคู่แข่งขันในตลาด

มูลค่าตลาด ( Market Size )
ส่วนแบ่งการตลาด ( Market Share )

กลยุทธ์และส่วนประสมทางการตลาด
( Market Mixed / 4p’s )

กลยุทธ์การตลาด Marketinfo

กลยุทธ์การตลาด-แผนธุรกิจ / Marketing Information & Strategy ข้อมูลด้านการตลาด (Marketing) จัดทำโดยผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีประสบการณ์ด้านข้อมูลการตลาด มากว่า 10 ปี กลยุทธ์การตลาด (Marketing Strategy) คือ กลวิธีหรือแบบแผนเพื่อช่วยให้สินค้าและบริการเป็นที่น่าสนใจในสายตาของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายและตอบสนองการใช้งานของลูกค้า

แผนการตลาด

คือแผนปฏิบัติการของกลยุทธ์การตลาดในช่วงเวลาข้างหน้า (1 เดือน 3 เดือน หรือ 1 ปี) แผนการตลาดรวมถึง ภาพรวมเป้าหมายการตลาดและโฆษณา รายละเอียดและระยะเวลาของแผนการตลาด และตัวชี้วัดประสิทธิภาพ (KPI) เป้าหมายของแผนการตลาดคือการสร้างทิศทางที่ชัดเจนให้กับธุรกิจ
แผนการตลาดที่ดีต้องสามารถปฏิบัติได้จริง ซึ่งก็หมายความว่าเราควรจะลงรายละเอียดวิธีการปฏิบัติ และทำการประเมินระยะเวลาที่จะเห็นผลด้วย ยกตัวอย่างเช่นแผนการตลาด Instagram ของคุณอาจจะรวมถึงการโพสต์รูปทุกวัน เป็นเวลา 3 เดือนเพื่อเพิ่มจำนวนคนติดตาม

กลยุทธ์การตลาด-แผนธุรกิจ

พบกับเนื้อหาของการวางกลยุทธ์การตลาด ผ่านเครื่องมือ Marketing Mix 4Ps ของแบรนด์ชั้นนำในตลาด พร้อมด้วยเนื้อหาของสภาพแวดล้อมทางการตลาดพร้อมกับการมองทิศทางของโอกาสและอุปสรรค รวมตัวเลขของขนาดตลาด (Market size) ส่วนแบ่งตลาด (Market share) ส่วนประสมทางการตลาด / กลยุทธ์ทางการตลาด ( Market Mixed / 4p's ) และแนวโน้ม ( Trend )
กลยุทธ์การตลาด-แผนธุรกิจ / Marketing Information & Strategy ,พบกับข้อมูลการตลาด (Marketing)  แผนธุรกิจ การวางกลยุทธ์การตลาด (Market Mixed / 4p's) การแข่งขัน (Market Analysis) ปัจจัยแห่งความสำเร็จ KEY SUCCESS FACTOR (KSF) โอกาส-อุปสรรค วิเคราะห์ปัจจัยภายนอก (PEST) มูลค่าตลาด (Market Size) ส่วนแบ่งการตลาด (Market Share)  กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
ข้อมูลชุดนี้อยู่ในรูปแบบไฟล์ MS Word มีจำนวน 9 หน้า อัพเดทล่าสุด 30/12/2564 ราคา 350 บาท จัดส่งผ่านอีเมลล์ภายใน 60 นาที สนใจรายละเอียด/สั่งซื้อ คลิ๊ก https://www.mktinfoonline.com/index.php/order-now/
ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ LINE ID : @marketinfo หรือคลิ๊กลิงก์ http://line.me/ti/p/@marketinfo

#EBOOK #แผนธุรกิจ #คู่แข่งขัน #วิจัย #กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย #อีบุ๊กธุรกิจการตลาด #อีบุ๊คธุรกิจการตลาด #วิเคราะห์ปัจจัยภายนอก #PEST #โอกาสอุปสรรค #5forces #KeySuccessFactors #KSF #ปัจจัยแห่งความสำเร็จ #บริษัทมาร์เก็ตอินโฟแอนด์คอมมูนิเคชั่นจำกัด
กลยุทธ์การตลาด Marketinfo

พฤติกรรมนักท่องเที่ยว

วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ CMMU เปิดงานวิจัย "หนีห่าว มาร์เก็ตติ้ง" เคล็ดลับมัดใจนักท่องเที่ยวจีนสไตล์ FIT เจาะลึกพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนที่นิยมเดินทางเป็นกลุ่มด้วยตัวเอง หรือเรียกสั้นๆ ว่า FIT (Free and Independent Traveler) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงอย่างต่อเนื่อง พบเฉลี่ยใช้เวลาในการมาท่องเที่ยวเมืองไทยต่อทริป ประมาณ 5-7วัน มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่คนละ 25,000 – 50,000 บาทต่อทริป โดยจากการวิเคราะห์สามารถแบ่งสัดส่วนการใช้จ่าย ออกเป็น 3 หมวดใหญ่ คือ 1. ชิล 2.ช็อป และ 3.ชิม พร้อมแนะกุญแจสู่ความสำเร็จมัดใจนักท่องเที่ยวจีนภายใต้คอนเซ็ปต์ "T-H-A-I" ดังนี้ T : Trust รักษามาตรฐานสินค้าและบริการของไทยให้มีคุณภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจ ส่งผลให้เกิดการซื้อซ้ำและบอกต่อ H: Hospitality ดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความจริงใจ ให้บริการด้วยอัธยาศัยแบบไทย สร้างความไว้วางใจและรักษาความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง A: Awarenessสร้างการรับรู้ กระตุ้นจุดสนใจ ดึงดูดด้วยภาษาจีน สื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ และ I: Identity สร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์ให้ชัดเจนมีความโดดเด่นและแตกต่าง สร้างแบรนด์ให้มีคุณค่าเพื่อให้นักท่องเที่ยวจีนระลึกถึง ทั้งนี้ วิทยาลัยการจัดการมหิดล ได้จัดสัมมนาการตลาด "หนีห่าว มาร์เก็ตติ้ง" เคล็ดลับฉบับมัดใจนักท่องเที่ยวจีน (FIT)เมื่อเร็วๆ นี้ ณ ห้อง 603 ชั้น 6 อาคารมิว วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ถนนวิภาวดีรังสิต สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจ นักการตลาด และบุคคลทั่วไป ที่สนใจในการทำธุรกิจและต้องการเจาะตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ที่เดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่วิทยาลัยการจัดการมหิดล
จากการคาดการณ์แนวโน้มทิศทางภาคการท่องเที่ยวไทยปี 2560 ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ระบุว่าภาคการท่องเที่ยวของไทยมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างรายได้ให้แก่ประเทศเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เติบโตทั้งในเชิงจำนวนและรายได้อย่างชัดเจน โดยคาดการณ์ของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) มองว่า ทิศทางภาคการท่องเที่ยวไทยปี 2560 จะเห็นการเติบโตของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งในเชิงจำนวนและรายได้อย่างชัดเจน ว่าในปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย ราว 33.73-34.39 ล้านคน เติบโต 3.75-5.78% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และมีรายได้จากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้สูงถึง 1.82-1.85 ล้านล้านบาท ทั้งนี้หากย้อนดูสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในปี 2559 พบว่า 1 ใน 3 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด จำนวน 8,221,526 คน เป็นนักท่องเที่ยวจีน และเป็นกลุ่มที่ท่องเที่ยวด้วยตัวเองมากถึง 60% ซึ่งในภาพรวมสร้างรายได้ให้กับประเทศไทย 445,000 ล้านบาท ขณะที่รายงาน "อนาคตของนักท่องเที่ยวจีน" ของอินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ลส์ กรุ๊ป ประเมินว่า รายได้ของไทยจากนักท่องเที่ยวจีนจะเพิ่มสูงขึ้นราว 829,500 ล้านบาทในปี 2566

กำลังซื้อ

ด้วยความน่าสนใจของตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่มีกำลังซื้อมหาศาล สาขาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล จึงได้ส่งเสริมให้นักศึกษาปริญญาโท ทำการศึกษา ค้นคว้า และมองเห็นโอกาสทางการตลาดที่ผู้ประกอบการไทย สามารถใช้เป็นแนวทางในการวางแผนกลยุทธ์การตลาดเพื่อเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่มีศักยภาพ ซึ่งในภาพรวมนอกจากจะช่วยเพิ่มยอดขายสินค้าได้มากขึ้น ขณะเดียวกันยังช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนด้วย โดยล่าสุดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีนโยบายทำการตลาดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนที่มีศักยภาพสูงเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น จึงถือเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการต้องเร่งปรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการ แต่เนื่องจากในปัจจุบันตลาดสินค้าและบริการสำหรับนักท่องเที่ยวจีนนั้น เริ่มมีการแข่งขันที่สูงขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมายังประเทศไทย ดังนั้น การสร้างความโดดเด่นให้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์ให้โดนใจนักท่องเที่ยวแดนมังกร จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นและหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ
จากการค้นคว้าข้อมูลพฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวจีน พบว่าปัจจุบันเทรนด์นักท่องเที่ยวจากจีนที่หลั่งไหลเข้ามายังประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนรุ่นใหม่ นิยมเดินทางเป็นกลุ่มด้วยตัวเอง หรือเรียกสั้นๆ ว่า FIT (Free and Independent Traveler) ที่น่าสนใจคือนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีกำลังซื้อสูง และในปี 2560 มีแนวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ธุรกิจของไทยที่มีฐานลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนมีโอกาสเติบโตอีกมาก ทีมวิจัยจึงทำการศึกษาวิจัยทั้งเชิงปริมาณโดยการสอบถาม นักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่ม FIT จำนวน 403 คน และเชิงคุณภาพโดยการสัมภาษณ์เชิงลึกอีก 30 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงอยู่ในช่วงอายุ 18-35 ปี การศึกษาระดับปริญญาตรีขึนไป ในหลากหลายอาชีพและรายได้เฉลี่ยต่อเดือนส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 3,000 – 12,000 หยวน หรือ 15,000 – 60,000 บาท พบว่า เหตุผลที่นักท่องเที่ยวจีนรุ่นใหม่นิยมเดินทางมาท่องแบบอิสระ เพราะประเทศไทยมีความหลากหลายและบรรยากาศดึงดูดให้มาท่องเที่ยว ที่สำคัญการเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยคุ้มค่ากับเงินที่จ่าย อาหารไทยอร่อย ถูก และดี และคนไทยอัธยาศัยดี มีวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม
ทั้งนี้ ระยะเวลาในการมาท่องเที่ยวเมืองไทยต่อทริป เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5-7 วัน มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 25,000 – 50,000 บาทต่อทริป

รูปแบบการใช้จ่าย

โดยรูปแบบการจ่ายเงินชาวจีนชอบจ่ายค่าสินค้าและบริการ ผ่านธนาคารอินเตอร์เน็ตที่คนจีนนิยม คือ Alipay รองลงมาคือWeChat pay และใช้เงินสด ตามลำดับ ซึ่งจากการวิเคราห์รายละเอียดเชิงลึกสามารถแบ่งสัดส่วนการใช้จ่าย ของนักท่องเที่ยวชาวจีนแบบอิสระออกเป็น 3 หมวดใหญ่ ได้แก่
หมวดที่ 1: ชิล คือ การใช้จ่ายในหมวดที่พักและกิจกรรมผ่อนคลาย ในหมวดนี้ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่มากที่สุดของการท่องเที่ยว โดยในปัจจุบันที่พักที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวจีนแบบอิสระ ไม่ได้จำกัดแค่การพักในโรงแรมเท่านั้นเพราะยังมีช่องทางในการจองที่พักมากมาย ไม่ว่าจะจากเว็ป Travel agency ต่างๆ สำหรับปัจจัยสำคัญที่ช่วยในตัดสินใจเลือกที่พักนั้น ส่วนใหญ่ดูจากการรีวิวและคอมเมนต์ของลูกค้าก่อนหน้าที่เคยใช้บริการ ซึ่งนอกจากราคาไม่แพงมาก ทำเลที่ตั้งต้องเดินทางสะดวก และการบริการของพนักงานแล้ว ยังดูถึงรสชาติของอาหารด้วย และที่ถือเป็นตัวช่วยที่หลายคนคาดไม่ถึงก็คือการมีสัตว์เลี้ยงน่ารักๆ ประจำที่พัก ซึ่งทำให้เกิดการบอกต่อและอยากมาถ่ายรูปเพื่ออัพลงโซเชียลมีเดีย ส่วนกิจกรรมผ่อนคลายที่นักท่องเที่ยวจีนชื่นชอบมากที่สุด คือการนวดผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการท่องเที่ยว โดยนอกจากในกรุงเทพฯ แล้ว ตามหัวเมืองท่องเที่ยวเช่น เชียงใหม่ และภูเก็ต ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน
หมวดที่ 2: ช็อป คือ การใช้จ่ายในการซื้อสินค้าไทย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักซื้อไปใช้เอง โดยกลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ 1.อาหารไทย 2.ขนมกินเล่น และ 3.เครื่องสำอาง รองลงมาเป็นของฝากและซื้อไปขายต่อตามลำดับ สำหรับปัจจัยที่นักท่องเที่ยวจีนพิจารณาก่อนควักเงินซื้อ คือคุณภาพของสินค้าและบรรจุภัณฑ์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เช่น ลวดลายที่บ่งบอกถึงความเป็นไทย รวมไปถึงการมีคำอธิบายคุณสมบัติและแหล่งที่มาเป็นภาษาจีนและภาษาอังกฤษ ที่สำคัญบรรจุภัณฑ์ต้องสามารถมองเห็นสินค้าภายในได้อย่างชัดเจน ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการตลาดโดยนอกจากมีตัวอย่างให้ทดลอง การสื่อสารด้วยข้อความลดราคา แบบ50% จะสามารถจูงใจให้เกิดการตัดสินใจซื้อได้มากกว่าการสื่อสารแบบซื้อ 1 แถม 1 การจัดโปรโมชั่นแบบซื้อครบยอดที่กำหนดแล้วได้ส่วนลดหรือได้ของแถมเพิ่ม และอีกเทคนิคมัดใจที่ช่วยเพิ่มโอกาสการในการขายได้มากขึ้น คือการที่พนักงานขายสามารถสื่อสารให้ข้อมูลเป็นภาษาจีน และเลือกพรีเซนเตอร์ดาราไทยที่คนจีนชื่นชอบ

บริษัท มาร์เก็ตอินโฟ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด Marketing Information Service
4637 เจริญราษฎร์ บางโคล่ บางคอแหลม กรุงเทพฯ 10120